สนับสนุนเว็บไซต์ด้วยการกดดูสินค้าผ่านลิ้งค์ของเรา

รีวิวเครื่องดูดฝุ่น Dreame X2
รีวิวสั้นๆ
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dreame X2 สามารถใช้ทำความสะอาดได้ง่าย ด้วยน้ำหนักที่เบา แรงดูดที่ค่อนข้างมาก ช่วยให้ดูดเศษฝุ่น ผม ขนสัตว์ได้ทั้งหมดในครั้งเดียว แบตเตอรี่สามารถใช้ได้สูงสุด 90 นาที แม้ว่าฟีเจอร์จะยังมีจำกัด แต่ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทำความสะอาดทั่วไป
Dreame X2 เป็นรุ่นอัพเกรดจาก R10 โดยให้แรงดูดที่สูงขึ้นและแบตที่อึดขึ้น และวัสดุที่ดูมีความพรีเมี่ยมมากกว่า เหมาะกับท่านที่กำลังหาเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ใช้งานได้ง่ายไว้ติดบ้าน
สิ่งที่เราชอบ
- น้ำหนักเบา ใช้งานได้ง่ายและสะดวก
- แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 90 นาที
- ดูดฝุ่นผง เศษผม ขนสัตว์ ได้ทั้งหมดในครั้งเดียว
สิ่งที่เราไม่ชอบ
- การใช้โหมด Turbo ทำให้แบตหมดไวขึ้นมาก
- ฟีเจอร์การใช้งานไม่หลากหลายนัก

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dreame X2
การทำความสะอาด
คะแนน: 8.5/10
- ดูดฝุ่นผง เศษผม ขนสัตว์ ได้ทั้งหมดในครั้งเดียว
- เหมาะกับการใช้งานบนพื้นกระเบื้องและพื้นไม้
- การใช้ทำความสะอาดพรมยังทำได้ไม่ดีนัก
เครื่องดูดฝุ่น Dreame X2 ใช้ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ว่าจะดูดฝุ่นผง เศษผม ขนสัตว์ หรือเศษขยะชิ้นเล็ก ๆ สามารถดูดได้สะอาดในครั้งเดียว สำหรับการใช้งานบนพรมแม้ว่าจะใช้โหมด Turbo ยังพบว่าสิ่งสกปรกและฝุ่นที่ติดแน่นไม่ได้หลุดออกมาทั้งหมดในครั้งเดียว แต่การใช้งานบนพื้นแข็งไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้หรือพื้นกระเบื้องทำความสะอาดได้ดี
เมื่อเทียบกับ Dreame R10 ที่เป็นรุ่นรองลงมา X2 ให้พลังดูดที่แรงกว่า ช่วยให้การทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ติดแน่นทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
แบตเตอรี่
คะแนน: 8.2/10
- ใช้งานได้นานถึง 90 นาทีในโหมด Eco
- ใช้เวลาในการชาร์จ 4 ชั่วโมง
แบตเตอรี่ของ X2 สามารถใช้งานได้นานถึง 90 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานสำหรับเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่โดยทั่วไปอยู่ที่ 45-60 นาที แม้ว่าการใช้งานโหมด Turbo จะกินแบตมากขึ้น ทำให้เวลาการใช้งานจริงอาจได้ต่ำกว่า 90 นาที
ความจุแบตที่มากแลกมาด้วยกับเวลาการชาร์จที่นานขึ้น โดยการชาร์จแบตเต็มใช้เวลาราว 4 ชั่วโมง ก่อนการใช้งานจึงควรมาการชาร์จทิ้งไว้ก่อน หากต้องการใช้ทำความสะอาดแบบจริงจัง

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dreame X2
ดีไซน์และวัสดุ
คะแนน: 8.4/10
- วัสดุที่ใช้มีคุณภาพดีสมราคา ตัวเครื่องเล็กกะทัดรัด
- มีหัวดูดให้เลือกเปลี่ยนได้หลายแบบตามต้องการ
- แท่นชาร์จติดตั้งได้ง่าย
วัสดุที่ใช้งานมีคุณภาพดีสมกับราคา แม้ว่าถังเก็บฝุ่นจะมีขนาดเพียง 0.5 ลิตร แต่นั่นช่วยให้เครื่องดูมีขนาดเล็กกะทัดรัด โดยถังเก็บฝุ่นสามารถเปิดเทฝุ่นได้ง่ายโดยไม่เลอะเทอะ
ขณะที่ด้านจับสามารถจับได้ถนัดมือ หัวดูดที่มากับกล่องสามารถเลือกได้ตั้งแต่ ลูกกลิ้งสำหรับดูดฝุ่นบนพื้น หัวแปรงสำหรับดูดฝุ่นบนโซฟา และหัวแปรงขนาดเล็กใช้ดูดฝุ่นตามซอกมุมต่าง ๆ โดยการเปลี่ยนหัวดูดทำได้ง่าย หัวดูดติดแน่น ไม่หลุดออกมาระหว่างการใช้งาน
แท่นชาร์จและที่เก็บเครื่องดูดฝุ่นสามารถติดตั้งได้ง่าย ช่วยให้เก็บเครื่องดูดฝุ่นได้เป็นระเบียบ ไม่ต้องวางเรี่ยราดไว้กับพื้น
การใช้งาน
คะแนน: 8.0/10
- น้ำหนักเบา ใช้งานได้สะดวก
- สามารถปรับแรงดูดได้ 3 ระดับ
- ไม่มีฟีเจอร์ให้ใช้มากนัก
เครื่องดูดฝุ่นนี้โดดเด่นด้วยน้ำหนักที่เบา ทำให้การใช้งานสะดวก ไม่ว่าจะดูดฝุ่นตามพื้น เพดาน หรือตามเฟอร์นิเจอร์
เครื่องดูดฝุ่นสามารถปรับแรงดูดได้ 3 ระดับ คือ Eco, Standard, และ Turbo แม้ว่าจะไม่สามารถปรับแรงดูดได้หลายระดับเมื่อเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นรุ่นอื่น แต่ก็ช่วยให้การใช้งานไม่มีความซับซ้อน
ไฟ LED ที่หัวดูดช่วยให้เห็นฝุ่นตามพื้นได้ง่าย โดยเฉพาะตามซอกหรือใต้เฟอร์นิเจอร์ที่แสงส่องไม่ถึง
จุดด้อยของเครื่องดูดฝุ่นนี้คือฟังก์ชั่นในการใช้งานที่ยังมีจำกัด โดยเราคาดหวังฟีเจอร์อื่น ๆ ในเครื่องดูดฝุ่นราคานี้ เช่น การแจ้งเตือนเทฝุ่น การแจ้งเตือนล้างฟิลเตอร์
Dreame X2

เครื่องดูดฝุ่น Airbot Hypersonics Max
เครื่องดูดฝุ่น 2-in-1 ที่สามารถใช้ได้ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้น ราคาต่ำลงมากว่า X2 ค่อนข้างเยอะ เหมาะกับเป็นทางเลือกพิจารณา อ่านรีวิวเต็ม

เครื่องดูดฝุ่น Dreame R10
รุ่นรองลงมาจาก X2 เครื่องดูดฝุ่นตัวนี้สามารถทำความสะอาดทั่วไปได้ดีไม่แพ้กัน จุดด้อยคือแบตเตอรี่ที่น้อยกว่า แต่แลกมาด้วยราคาที่ถูกกว่าเกือบครึ่ง อ่านรีวิวเต็ม